โหมดการยิงระยะแบบ Non-prism เหมาะกับงานสำรวจแบบไหน?

Last updated: 13 ม.ค. 2568  |  15 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โหมดการยิงระยะแบบ Non-prism เหมาะกับงานสำรวจแบบไหน?

โหมดการยิงระยะแบบ Non-prism เหมาะกับงานสำรวจแบบไหน?

ในงานสำรวจที่ใช้เครื่องมือประเภท กล้อง Total Station  รุ่นที่มีฟังก์ชันทันสมัย โหมดการยิงระยะแบบ Non-prism เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพในการทำงานสำรวจ โหมดนี้หมายถึงการวัดระยะทางโดยไม่ต้องใช้ปริซึมสะท้อนแสง แต่ใช้การสะท้อนของลำแสงจากพื้นผิวของวัตถุโดยตรง ซึ่งเหมาะสำหรับงานสำรวจที่มีความท้าทายในด้านสภาพแวดล้อมและลักษณะพื้นที่ โดยในบทความนี้จะอธิบายถึงงานสำรวจที่เหมาะกับการใช้โหมด Non-prism พร้อมทั้งข้อดีและข้อจำกัดของการใช้งาน

โหมด Non-prism คืออะไร?

โหมด Non-prism เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การวัดระยะสามารถทำได้โดยไม่ต้องติดตั้งปริซึมสะท้อนแสงบนวัตถุเป้าหมาย โดยเครื่องมือจะส่งลำแสงเลเซอร์ไปยังวัตถุ และคำนวณระยะทางจากแสงที่สะท้อนกลับมา วิธีนี้เหมาะสำหรับพื้นที่หรือสถานการณ์ที่ไม่สามารถติดตั้งปริซึมได้อย่างสะดวก

งานสำรวจที่เหมาะกับโหมด Non-prism

1. สำรวจพื้นที่เข้าถึงยาก
เหมาะกับการสำรวจพื้นที่ที่ไม่สามารถเดินเข้าไปติดตั้งปริซึมได้ เช่น พื้นที่ลาดชัน หน้าผาสูง หรือบริเวณที่มีสิ่งกีดขวาง

ตัวอย่าง: การสำรวจหน้าผาหิน การตรวจสอบเขื่อน หรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย

2.งานสำรวจในเขตเมือง
โหมด Non-prism มีความเหมาะสมกับการวัดระยะในพื้นที่ที่มีสิ่งปลูกสร้างหนาแน่น เช่น อาคาร ถนน หรือโครงสร้างพื้นฐาน

ตัวอย่าง: การตรวจสอบตำแหน่งเสาไฟฟ้า วัดระยะไปยังผนังอาคาร หรือเก็บข้อมูลของสะพานและโครงสร้างสูง

3.งานสำรวจเบื้องต้น
ใช้สำหรับการเก็บข้อมูลเบื้องต้นในพื้นที่โครงการใหม่ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ปริซึม

ตัวอย่าง: การสำรวจเพื่อออกแบบโครงการก่อสร้าง การกำหนดขอบเขตพื้นที่ หรือการตรวจสอบภูมิประเทศ

4.งานที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว
โหมด Non-prism ช่วยลดขั้นตอนการติดตั้งปริซึม ทำให้งานสำรวจเสร็จได้เร็วขึ้น

ตัวอย่าง: การตรวจสอบจุดอ้างอิงหรือการสำรวจพื้นที่ที่มีข้อจำกัดด้านเวลา

5.สำรวจพื้นที่อันตราย
เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้โดยตรงหรือเสี่ยงต่ออุปกรณ์

ตัวอย่าง: การสำรวจภายในโรงงานอุตสาหกรรม การตรวจสอบพื้นที่ที่มีสารเคมีอันตราย หรือพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการถล่ม

ข้อดีของโหมด Non-prism

ความสะดวก: ไม่ต้องใช้ปริซึม ช่วยลดขั้นตอนการตั้งค่าอุปกรณ์
ความปลอดภัย: เหมาะสำหรับการสำรวจในพื้นที่เสี่ยงอันตราย
ลดเวลาในการทำงาน: สามารถวัดระยะได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม

ข้อจำกัดของโหมด Non-prism

ระยะการวัดจำกัด: การวัดระยะทางในโหมด Non-prism มักจะสั้นกว่าเมื่อเทียบกับโหมดที่ใช้ปริซึม โดยทั่วไปสามารถวัดได้ในระยะไม่เกิน 500-1000 เมตร (ขึ้นอยู่กับรุ่นของอุปกรณ์)
ความแม่นยำขึ้นอยู่กับพื้นผิว: หากพื้นผิวของวัตถุมีลักษณะขรุขระหรือดูดซับแสง เช่น วัตถุที่มีสีเข้ม หรือพื้นผิวที่ไม่สะท้อนแสงได้ดี ความแม่นยำอาจลดลง
ประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อม: สภาพแสงแดดจ้า ฝุ่น หรือหมอก อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการวัด

สรุป

โหมด Non-prism เป็นฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับงานสำรวจในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก หรือในสถานการณ์ที่ไม่สะดวกในการใช้ปริซึม แม้ว่าจะมีข้อจำกัดบางประการในเรื่องระยะการวัดและความแม่นยำ แต่ก็ทดแทนด้วยความสะดวกและความปลอดภัยที่สูงขึ้น ทั้งนี้ การเลือกใช้โหมด Non-prism หรือโหมดปริซึม ควรพิจารณาจากลักษณะของงานและพื้นที่สำรวจ เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงสุด



Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้