ขั้นตอนและวิธีการวางหมุด (Stake-Out) ในงานสำรวจและก่อสร้าง
การวางหมุด (Stake-Out) คือกระบวนการสำคัญในการนำแบบก่อสร้างไปใช้ในพื้นที่จริง โดยการกำหนดตำแหน่งจุดหรือหมุดต่างๆ ลงบนภาคสนามให้ตรงกับแบบแปลนหรือแบบก่อสร้างที่ออกแบบไว้ กระบวนการนี้ช่วยให้งานก่อสร้างเป็นไปอย่างแม่นยำและถูกต้อง ลดข้อผิดพลาดและความคลาดเคลื่อน
ขั้นตอนหลักในการวางหมุด
- การเตรียมข้อมูลพิกัด
- นำค่าพิกัดหรือระยะและมุมจากแบบก่อสร้าง
- ตรวจสอบความถูกต้องและชัดเจนของระบบพิกัด เช่น พิกัดท้องถิ่นหรือระบบ UTM
- การตั้งกล้องและจุดอ้างอิง (Back-sight)
- การคำนวณมุมและระยะ
- คำนวณมุม Azimuth และระยะทางจากตำแหน่งกล้องไปยังจุดวางหมุดตามพิกัด
- สามารถใช้แอปพลิเคชัน เช่น Stake Out Guide หรือโปรแกรม CAD เพื่อความรวดเร็วและแม่นยำ
- การเล็งทิศทางด้วยกล้องสำรวจ
- หมุนกล้องสำรวจให้ตรงกับมุม Azimuth ที่คำนวณไว้
- ยืนยันแนวเล็งให้ถูกต้องก่อนวางหมุด
- การวัดระยะและปักหมุด
- ใช้สายวัดหรือไม้บรรทัดวัดระยะทางจากกล้องไปยังตำแหน่งที่คำนวณได้
- ปักหมุดบริเวณนั้น เช่น หมุดไม้ หมุดเหล็ก หรือการทำเครื่องหมายด้วยสี
- การตรวจสอบความถูกต้อง
- หลังปักหมุดเสร็จ ควรวัดระยะและมุมกลับอีกครั้งเพื่อตรวจสอบตำแหน่ง
- หากพบว่าคลาดเคลื่อนเกินเกณฑ์ ต้องทำการปรับตำแหน่งใหม่ทันที
อุปกรณ์ที่ใช้ในการวางหมุด
- กล้องวัดมุม (Theodolite) หรือกล้อง Total Station
- ไม้สต๊าฟ หรือไม้บรรทัดและสายวัด
- หมุดสำหรับการปัก เช่น หมุดไม้หรือหมุดเหล็ก
- อุปกรณ์คำนวณ เช่น สมาร์ตโฟนหรือเครื่องคิดเลข
- แอปพลิเคชันช่วยคำนวณและวางหมุด เช่น Stake Out Guide
สรุป
กระบวนการวางหมุด (Stake-Out) เป็นขั้นตอนสำคัญในงานสำรวจและก่อสร้าง เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างถูกต้อง แม่นยำ และสามารถลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากความผิดพลาดของการกำหนดตำแหน่งในภาคสนาม ผู้ปฏิบัติงานควรดำเนินตามขั้นตอนอย่างละเอียดและตรวจสอบความถูกต้องเสมอ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องประมวลผลรวม และบริการหลังการขาย : บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด