Last updated: 22 เม.ย 2568 | 9 จำนวนผู้เข้าชม |
เทคโนโลยีการสำรวจทางวิศวกรรมได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการพัฒนาเครื่องมือสำรวจอิเล็กทรอนิกส์ที่ซับซ้อน เช่น กล้องวัดมุมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Theodolites) และความสามารถในการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล หนึ่งในนวัตกรรมสำคัญที่เกิดขึ้นจากความก้าวหน้านี้คือ "ระบบหาตำแหน่งจุดตัดด้วยกล้องวัดมุมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Theodolite Intersection Systems - ETIS)" ซึ่งเป็นหัวข้อหลักของการศึกษาวิจัยในระดับปริญญาเอกโดย Richard Mark Bingley ที่มหาวิทยาลัยน็อตติงแฮม (University of Nottingham) เมื่อปี ค.ศ. 1990
ระบบ ETIS เป็นการนำกล้องวัดมุมอิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไปมาทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์ โดยมีพื้นฐานมาจากหลักการทางเรขาคณิตที่เรียกว่า "จุดตัดในอวกาศสามมิติ (3D Spatial Intersection)" หลักการนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เพิ่งจะนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในทางปฏิบัติหลังจากที่มีกล้องวัดมุมอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความละเอียดสูง (ระดับ 1 วินาที) และสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้
ETIS มีความสามารถในการคำนวณหาพิกัดของจุดต่างๆ ในอวกาศสามมิติได้อย่างแม่นยำสูงโดยไม่จำเป็นต้องสัมผัสกับเป้าหมายโดยตรง (Non-contact) ความแม่นยำที่ทำได้นั้นน่าทึ่ง โดยสามารถวัดพิกัดได้ละเอียดถึงประมาณ ±50 ไมครอน ในระยะ 10 เมตร ซึ่งเหนือกว่าวิธีการวัดแบบดั้งเดิมหลายเท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ไม่สามารถเข้าถึงหรือสัมผัสกับเป้าหมายได้โดยตรง
ระบบ ETIS โดยทั่วไปประกอบด้วย:
ด้วยความสามารถในการวัดแบบไม่สัมผัสและความแม่นยำสูง ทำให้ ETIS ถูกนำไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรมและงานวิศวกรรม เช่น:
ในงานวิทยานิพนธ์นี้ ผู้วิจัยได้ทำการพัฒนาและศึกษาเจาะลึกเกี่ยวกับระบบ ETIS โดยมีการพัฒนาระบบต้นแบบขึ้นที่มหาวิทยาลัยน็อตติงแฮม ซึ่งเรียกว่า UN ETIS (University of Nottingham ETIS) ระบบนี้แบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก:
ผู้วิจัยได้ทำการประเมินความแม่นยำของระบบ UN ETIS อย่างละเอียด รวมถึงศึกษาผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อความถูกต้องของผลลัพธ์การวัด เพื่อให้เข้าใจขีดจำกัดและศักยภาพที่แท้จริงของระบบ
การวิจัยได้รวมถึงการนำระบบ UN ETIS ไปทดลองใช้งานจริงในภาคสนาม เพื่อยืนยันประสิทธิภาพและความสามารถในการปฏิบัติงาน โดยมีการทดลองที่สำคัญได้แก่:
จากผลการศึกษาและการทดลองทั้งหมด ทำให้สามารถสรุปในเชิงวิศวกรรมได้ว่า ระบบ ETIS มีศักยภาพสูงในการวัดพิกัดที่ต้องการความละเอียดในระดับมิลลิเมตรหรือต่ำกว่า ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากเมื่อเทียบกับระบบการวัดแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ไม่สามารถเข้าถึงหรือสัมผัสเป้าหมายได้โดยตรง
วิทยานิพนธ์เรื่อง "Electronic Theodolite Intersection Systems" โดย Richard Mark Bingley ฉบับนี้ ถือเป็นงานวิจัยที่มีคุณค่า ซึ่งไม่เพียงแต่ให้ความรู้เชิงทฤษฎีเกี่ยวกับระบบ ETIS แต่ยังครอบคลุมถึงการพัฒนา การทดสอบ และการประยุกต์ใช้งานจริงในภาคอุตสาหกรรม แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของระบบนี้ในการยกระดับความสามารถด้านการสำรวจและวิศวกรรมในยุคปัจจุบัน
21 เม.ย 2568
22 เม.ย 2568
21 เม.ย 2568
22 เม.ย 2568