Last updated: 7 ก.พ. 2567 | 1839 จำนวนผู้เข้าชม |
1. วางไม้สต๊าฟหน้าจุด E ที่เป็นจุดอ้างอิงสำหรับการวัดระดับของคุณ จากนั้นให้ผู้ช่วยหรือเพื่อนร่วมงานถือไม้สต๊าฟไว้ที่จุดนั้นโดยมีการเอียงไม้สต๊าฟไปทางข้างหน้า-ข้างหลัง เพื่อให้บันทึกค่าที่น้อยที่สุดที่อ่านได้ ซึ่งจะช่วยให้การวัดมีความแม่นยำสูงสุด
2. หาความต่างระหว่างความสูงของกล้องระดับกับจุดอ้างอิงโดยการส่องผ่านกล้องระดับและตั้งไม้สต๊าฟไว้ที่จุด E จากนั้นบันทึกค่าตัวเลขที่ได้จากการส่องของเส้นสายใยกลางและในแนวราบ กระบวนการนี้เรียกว่า backsight โดยมีช่องของไม้สต๊าฟหน้า E แต่ละช่องมีขีดแบ่งทุกๆ 1 มม.
3. คำนวณความสูงที่แท้จริงของระดับโดยใช้ความสูงมาตรฐานและเพิ่มค่าที่ได้จากการวัด backsight กับค่าความสูงปัจจุบันของกล้องระดับ
4. หาความแตกต่างของความสูงระหว่างระดับกับจุดที่ยังไม่ได้ทำการวัดโดยย้ายไม้สต๊าฟหน้า E ไปยังจุดที่ต้องการวัด จากนั้นใช้กล้องระดับส่องไปยังไม้สต๊าฟและบันทึกค่าตัวเลขที่ได้จากการส่องของเส้นสายใยกลางและในแนวราบ กระบวนการนี้เรียกว่า foresight
หมายเหตุ: ในกรณีที่จำเป็นต้องปรับปรุงการโฟกัสเพื่อให้มองเห็นไม้สต๊าฟได้ชัดเจน หรือในกรณีที่จุดนั้นสูงหรืออยู่ไกลเกินไปจนทำให้ไม่สามารถวัดได้ ให้ปรับโฟกัสและ/หรือย้ายไม้สต๊าฟไปยังจุดที่ต่ำกว่าและใกล้กว่า จากนั้นทำการวัดใหม่ตามขั้นตอนข้างต้น
5. คำนวณความสูงที่แท้จริงของจุดโดยใช้ความสูงของระดับซึ่งการคำนวณจะต้องลบค่าความสูงที่ได้จากการวัด foresight ออกจากความสูงของระดับ เพื่อให้ได้ค่าความสูงที่แท้จริงของจุดที่ทำการวัด
ขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้การวัดระดับเป็นไปอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ อย่าลืมทำการบันทึกค่าความสูงนี้และสร้างแผนภาพหรือคำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับจุดที่วัดอย่างละเอียด เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานในอนาคต
ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องประมวลผลรวม และบริการหลังการขาย : บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด
15 พ.ย. 2567
18 พ.ย. 2567
18 พ.ย. 2567
19 พ.ย. 2567