การวัดสเตเดีย (หาระยะทาง) ด้วยกล้องวัดมุม(Theodolite)

Last updated: 9 ส.ค. 2567  |  565 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การวัดสเตเดีย (หาระยะทาง) ด้วยกล้องวัดมุม

การวัดสเตเดีย (หาระยะทาง) ด้วยกล้องวัดมุม(Theodolite)

การวัดระยะทางในงานสำรวจและการทำแผนที่เป็นกระบวนการที่สำคัญต่อการกำหนดตำแหน่งและจัดทำแผนที่อย่างแม่นยำ โดยปกติแล้วจะมีการใช้เครื่องมือที่หลากหลาย เช่น เทปวัดระยะ กล้อง Total Station หรือเทคโนโลยี GPS อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ต้องการความยืดหยุ่นหรือเมื่อต้องทำงานในพื้นที่ที่ไม่สามารถใช้เครื่องมือวัดระยะทางที่ทันสมัยได้ กล้องวัดมุม (Theodolite) เป็นอุปกรณ์สำคัญที่สามารถนำมาใช้ในการวัดระยะทางด้วยเทคนิคที่เรียกว่า Stadia Method บทความนี้จะอธิบายหลักการทำงาน ขั้นตอนการใช้งาน และวิธีการคำนวณระยะทางโดยใช้กล้องวัดมุม (Theodolite)

หลักการทำงานของการวัดระยะทางด้วยสเตเดีย


การวัดระยะทางด้วยสเตเดียโดยใช้กล้อง Theodolite อาศัยหลักการพื้นฐานทางเรขาคณิตและการอ่านค่าจากเส้นสเตเดียสองเส้นที่ปรากฏในช่องเล็งของกล้อง เมื่อกล้องถูกเล็งไปยังไม้วัดที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการวัดระยะ ผู้ใช้จะสามารถคำนวณระยะทางได้โดยใช้สูตรทางคณิตศาสตร์ที่กำหนดขึ้น

ขั้นตอนการวัดระยะทางด้วยสเตเดีย

1. การตั้งกล้องวัดมุม:
- ติดตั้งกล้อง Theodolite บนขาตั้งกล้องให้มั่นคง จากนั้นปรับระดับกล้องให้ได้แนวระดับ (horizontal level) โดยใช้ระดับน้ำที่ติดตั้งบนกล้อง เพื่อให้การวัดมีความแม่นยำสูงสุด
- เล็งกล้องไปยังไม้วัด (Stadia rod) หรือไม้สต๊าฟ ที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งเป้าหมาย ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ต้องการวัดระยะทางจากจุดที่ตั้งกล้อง

2. การอ่านสเกลสเตเดีย:
- หลังจากเล็งกล้องไปยังไม้วัดแล้ว อ่านค่าที่ปรากฏจากเส้นสเตเดียสองเส้นในแนวตั้งในช่องเล็งของกล้อง Theodolite เส้นสเตเดียจะตัดกับมาตราวัดที่ไม้วัดในระดับต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นค่าที่นำไปใช้ในการคำนวณระยะทาง

3. การคำนวณระยะทาง:
- ระยะทางระหว่างกล้องและไม้วัดสามารถคำนวณได้โดยใช้สูตรดังนี้:

D = K ⋅ S + C

ที่:
- D คือ ระยะทางระหว่างกล้องกับไม้วัด (Distance)
- K คือ ค่าคงที่ของกล้อง (Stadia constant) ซึ่งโดยทั่วไปจะมีค่าเท่ากับ 100 ขึ้นอยู่กับการออกแบบของกล้อง
- S คือ ความต่างของการอ่านค่าจากเส้นสเตเดียสองเส้น (Stadia interval) ที่ได้จากไม้วัด
- C คือ ค่าคงที่ที่อาจต้องบวกเพิ่มจากระยะทางที่คำนวณได้ (ซึ่งบางครั้งอาจเป็นศูนย์ ขึ้นอยู่กับกล้องและสภาพการใช้งาน)

ตัวอย่างเช่น หากค่าอ่านได้จากเส้นสเตเดียคือ 1.5 เมตรและ 2.0 เมตร ความต่างระหว่างสองค่า (S) จะเท่ากับ 0.5 เมตร เมื่อแทนค่าในสูตร จะได้ระยะทาง:


D = 100 ⋅ 0.5 = 50 เมตร


ดังนั้น ระยะทางระหว่างกล้อง Theodolite และไม้วัดในกรณีนี้คือ 50 เมตร

4. การคำนวณความสูง:
- นอกเหนือจากการวัดระยะทางในแนวราบแล้ว การใช้กล้อง Theodolite ยังสามารถใช้ในการคำนวณความสูงระหว่างจุดสองจุดได้ โดยอาศัยการอ่านค่ามุมเงย (Vertical angle) ของกล้องและนำค่าดังกล่าวมาคำนวณตามหลักการตรีโกณมิติ (Trigonometry) เพื่อหาค่าความสูงระหว่างจุดสองจุด

ข้อควรระวังและเคล็ดลับในการวัดระยะทางด้วยสเตเดีย


- การตั้งกล้องให้ได้ระดับ: การปรับระดับกล้องให้ได้แนวระดับเป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยลดความผิดพลาดในการอ่านค่าและคำนวณระยะทาง
- การอ่านค่าอย่างระมัดระวัง: การอ่านค่าจากเส้นสเตเดียต้องทำอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ค่าที่แม่นยำและลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากความคลาดเคลื่อนในการอ่านค่า
- การใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม: ควรเลือกสภาพแวดล้อมที่ไม่มีสิ่งกีดขวางหรือสภาพอากาศที่อาจส่งผลต่อการมองเห็นไม้วัดและการวัดระยะทาง

สรุป


การวัดระยะทางด้วยสเตเดียโดยใช้กล้อง Theodolite เป็นเทคนิคที่มีความสำคัญและยังคงใช้งานอย่างแพร่หลายในงานสำรวจและการทำแผนที่ แม้ว่าจะมีวิธีการวัดระยะทางที่ทันสมัยกว่า แต่การใช้กล้อง Theodolite ยังคงเป็นวิธีที่มีความแม่นยำและสะดวกในการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่พกพาและใช้งานได้ง่าย การเรียนรู้และฝึกฝนการใช้กล้อง Theodolite อย่างถูกต้องจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและความแม่นยำในการวัดระยะทาง




ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องประมวลผลรวม และบริการหลังการขาย : บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้